สงสาร

สงสาร

วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แม่

ตั้งแต่จำความได้  ผมโตมาจากครอบครัวเล็กๆที่แสนจะอบอุ่น

ผมอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ในบ้านหลังเล็กอย่างมีความสุข

แต่ความสุขของผม ก็อยู่กับผมและครอบครัวได้ไม่นานสักเท่าไหร่

พ่อกับแม่มีปัญหา  ทะเลาะกันทุกวัน  เพราะว่าพ่อของผมแอบไปมีกิ๊ก

ไม่ค่อยกลับบ้าน  จนแม่ของผมทนไม่ไหว จึงจดทะเบียนหย่า

ผมจึงต้องอาศัยอยู่กับแม่สองคน   แต่ถึงผมจะอยู่กับแม่

ผมก็ไม่เคยขาดความอบอุ่น หรือเรียกร้องต้องการความรักจากพ่อ

เพราะ แม่ของผม  เป็นทั้งพ่อและแม่  เป็นทุกๆอย่าง

ทำให้ผมมีความสุขมาก

ผมจึงรักแม่ของผมมากที่สุด.

วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ความกังวล

ตวามวิตกกังวล  แม้จะไม่ใช่เรื่องแปลก  แต่มันก็เป็นเหตุให้กลายเป็นโรคประสาทได้

คนสมัยนี้ชอบกดดันตัวเอง  เพราะตั้งความหวังไว้สูง เลยมักไม่ค่อยพอใจในสิ่งที่

ตัวเองมี  แต่อยากจะมี อยากจะได้มากไปกว่านี้อีก

การคิดอย่างนี้ไม่ผิด เพราะชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก  เราเลยอยากทำให้ดีที่สุด

คิดถึงเรื่องต่างๆที่เคยกังวลสารพัดในอดีต  สุดท้ายก็ไม่มีอะไรนักหนา

อาจจะขอบคุณเสียด้วยซ้ำไป.

วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

กลโกงในบ่อนการพนัน

ในปัจจุบัน ไม่ทราบว่าเศรษกิจดีขึ้นหรือแย่ลง  คนไทยหันไปเข้าบ่อนการพนันมากขึ้น

เห็นได้จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุมได้นักพนันคราวละกว่าร้อยคนขึ้นไป  และจากการที่ได้

สอบถามพูดคุยกับเซียนนักพนันผู้หนึ่ง  ได้เปิดเผยและยืนยันว่า

ไม่มีบ่อนพนันแห่งไหนในโลกที่ไม่โกง เพราะเขาได้ตะเวนมาแล้วแทบทุกบ่อน ทั้งในประเทศ

และต่างประเทศ

ถ้าเป็นวงพนันธรรมดา  มักจะโกงด้วยเทคนิคฝีมือ เช่นการซ่อนไพ่ สลับไพ่ เจ้ามือสามารถสลับไพ่

ให้ออกหน้าที่ตัวเองต้องการได้  หรืออาจจะใช้วิธีสะกิดขอบไพ่ หรือใช้ไพ่ที่มีขนาดไม่เท่ากันซึ่งแตก

ต่างกันเล็กน้อย  ถ้าไม่ส่องกล้องก็ไม่อาจสังเกตุเห็นได้

ถ้าเป็นการโกงไฮโล  ก็จะใช้วิธีที่เรียกว่า " แผลสด "  คือใช้ลูกเต๋าธรรมดา โดยเจ้ามือจะป้ายน้ำยา

ต่างๆเช่น วาสลิน  ยาหม่อง หรือแม้แต่น้ำเปล่า ลงบนหน้าลูกเต๋า เพื่อยึดหน้านั้นให้ติดกับจาน

เช่นต้องการให้ออก  5  ก็ทาน้ำยาที่หน้า  3  เป็นต้น

การพนัน ไม่ใช่เกมส์แห่งการวัดดวง   แต่เป็นเกมส์ของการใช้เทคนิคกลโกง

ฉะนั้นถ้าใครจะคิดเข้าไปวัดดวงในบ่อน  ก็เป็นการคิดผิด.

 

วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

สุนัขในห้างซุบเปอร์มาร์เก็ต

" สุนัข "  นอกจากจะเป็นเพื่อนแท้และกำลังใจของใครต่อหลายคนแล้ว

บางครั้งพวกมันยังสามารถเป็น ''  แรงบันดาลใจ  '' แก่ผู้เป็นเจ้าของได้อีกด้วย

คนรักสุนัขกลุ่มหนึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการเลี้ยงสุนัขทั่วไป  แต่ด้วยความรักความผูกพัน

ได้ผลักดันพวกเขาจนนำไปสู่การสร้างสรรสังคมออนไลน์   ที่ ณ วันนี้มีการเจริญเติบโต

อย่างต่อเนื่อง และได้รับความนิยมอย่างสูง

นั่นคือ   DOGLIKE.COM

เราคงไม่อยากเห็นสุนัขของเรา อยู่ในห้าง ซุบเปอร์มาร์เก็ต แบบนี้ใช่ไหมครับ.

วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เจ้าลอย ตอนสุดท้าย

เจ้าลอย  บทสุดท้าย

เสียงพายุฝนที่กระหน่ำลงมา  ช่วยกล่อมให้มันเคลิบเคลิ้ม

มันไม่รู้ว่าฟ้าดินเคยให้โอกาสมันมาแล้วครั้งหนึ่ง

โดยบันดาลให้ยายพริ้มมาช่วยชีวิตมันไว้ มิให้ลอยตามน้ำไป

แต่มันได้ทำอย่างไรกับโอกาสและชีวิตที่มันได้มา

เรือยนต์ลำนั้นแล่นมาถึงคุ้งสำเภาจะเข้าหัวคุ้ง ''  ชีวิตกูเป็นกำไร  '' ลอยมันนึกอยู่ในใจ

ก็พอดีเรือลำนั้นคว่ำจมลง   ชีวิตของเจ้าลอยก็ลอยไปตามกระแสน้ำ สายเดียวกันกับที่

ไหลผ่านหน้าบ้านยายพริ้มเมื่อสามสิบปีมาแล้ว


เมื่อเขางมมันขึ้นมาวางไว้บนตลิ่งในตอนเช้า  ไอ้ลอยมันนอนยิ้มอย่างมีความสุข

เสียเต็มประดา   ถ้าศพของมันพูดได้  มันก็คงจะพูดว่า ''  ชีวิตกูเป็นกำไร  ''

วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

หลายชีวิต 2

หลังจากนำบทเรื่องหลายชีวิตมาลง ปรากฏว่ามีผู้อ่านหลายท่าน ขอให้ลงอีกบางเรื่อง

เป็นดัวอย่าง   เพราะเป็นคนรุ่นใหม่  ไม่คุ้นเคยกับเรื่องสั้นแนวนี้  หลังจากนอนคิดมาหนึ่งคืน

ก็ตกลงที่จะเพิ่มใน blog Animals นี้   เพราะมนุษย์ ก็คือสัตว์ประเภทหนึ่งนั่นเอง 

เจ้าลอย

ถ้าใครจะไปถามเจ้าลอยว่า มันเกิดที่ไหน มันก็จะต้องตอบว่า มันเกิดที่เมืองสุพรรณ

แต่ความจริงนั้นเจ้าลอยมันจะเกิดที่ไหน ไม่มีใครทราบ ชื่อของมันที่เรียกกันว่าเจ้าลอย

ทั้งละแวกบ้านนั้น เป็นการบอกประวัติของลอยอยู่ในตัว

วันหนึ่ง  ประมาณสามสิบกว่าปีมาแล้ว เวลาเช้าแต่ยังไม่สว่าง ยายพริ้มที่บ้านแกอยู่ริมคลอง

ได้ลุกขึ้นตั้งหม้อหุงข้าว ตามปรกติวิสัยของชาวบ้านแถบนั้น เช้าวันนั้นเป็นวันหน้าหนาว

ยายพริ้มก่อไฟแล้วก็นั่งผิงกองไฟอยู่ครู่หนึ่ง เพื่อให้เลือดฝาดของแกซึ่งดูเหมือนจะขอดข้น

เพราะความหนาว ได้รับความอบอุ่นกระจายไปทั่วตัวก่อนที่จะลงมือทำงานอย่างอื่นต่อไป

ยายพริ้มเหยียดมืออันหยาบและหนา ข้อนิ้วแตกทุกข้อเพราะงานหนักที่สุจริตออกอังไฟ

ปากก็เคี้ยวหมากคำแรกสำหรับวันนั้น

และขณะนั้นเองหูของแกก็ได้ยินเสียงเด็กร้องแว่วๆดังขึ้นใกล้บ้าน  แกให้รู้สึกสนเท่ห์เป็น

หนักหนาเพราะบ้านแกอยู่ห่างบ้านคนอื่น และแกก็อยู่ด้วยกันสองคนกับเจ้าเถิก หลานชาย

อายุเก้าขวบของแก ซึ่งบัดนี้ยังนอนหลับสบายอยู่ในมุ้ง ยายพริ้มเงี่ยหูฟังให้แน่ใจ แต่เสียง

เด็กร้องนั้นก็ยังดังอยู่เรื่อยๆ แกนั่งนิ่งๆต่อไปอีกครู่หนึ่ง ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำอย่างไร

เสียงนั้นดังมาจากท่าน้ำหน้าเรือน แต่ในที่สุด เมื่อเสียงนั้นดังอยู่เรื่อยๆไม่ยอมหยุด ยายพริ้ม

ก็ผละจากกองไฟ ฉวยตะเกียงที่เติมด้วยน้ำมันปลาสร้อยมีแสงริบหรี่ เดินออกจากเรือนไปยัง

ตีนท่า  พอถึงตีนท่า ยายพริ้มก็รู้แน่ว่าเสียงนั้นมิใช่เสียงอื่น แต่เป็นเสียงเด็กเกิดใหม่ อายุไม่

เกินสิบวัน และเมื่อส่องตะเกียงไปที่บันไดท่าน้ำ ยายพริ้มก็แลเห็นหม้อทะนนใบหนึ่งลอยมา

ติดอยู่ ในหม้อนั้นมีเด็กผู้ชายเกิดใหม่กำลังตะเบ็งเสียงร้องเหมือนกับจะเรียกให้คนช่วย

ยายพริ้มใจหายวาบ รีบก้าวลงบันไดไปยกเอาหม้อนั้นขึ้นมาอย่างบรรจง แกค่อยๆอุ้มเด็กนั้น

ขึ้นจากหม้อและกอดเอาไว้กับอก เมื่อได้รับความอบอุ่นจากตัวยายพริ้ม เด็กนั้นก็หยุดร้อง

และเริ่มไซร้หน้าไปตามหน้าอกยายพริ้ม พอแกเอาหัวนมของแกที่แห้งแล้งมาแล้วหลายปี

ใส่เข้าที่ปากเด็กนั้นก็ดูดอย่างพอใจไปจนหลับ  ยายพริ้มนั่งอยู่ที่หัวบันไดนั้นนานลืมความ

หนาวจากอากาศเสียสิ้น มีแต่ความอบอุ่นอันเกิดจากความรัก ความเมตตาที่แกทุ่มเทให้แก่

เด็กน้อยที่ไม่มีผู้ใดปราถนานี้นับแต่นาทีแรกที่แกหยิบขึ้นมาจากหม้อ

สว่างแล้ว  ยายพริ้มเริ่มมองดูรอบๆตัวแล้วลุกขึ้นยืน อุ้มเด็กนั้นเดินกลับเข้าเรือนอย่างระมัด

ระวัง ประดุจว่าแกกำลังยกสมบัติอันมีค่า  และตั้งแต่นั้นมา ยายพริ้มผู้ซึ่งผัวตายเสียตั้งแต่

ยังสาวๆไม่เคยมีลูกก็เรียกเด็กคนนั้นว่าลูก และเลี้ยงเด็กนั้นมาจนเติบโต ตั้งชื่อว่า'' ลอย ''

เพราะมันลอยมาติดบันไดน้ำหน้าบ้านแกในเช้าตรู่วันหนึ่ง

ยายพริ้มแกไม่รู้ว่าสัตว์ที่แกเอามาแนบไว้กับอกนั้น มิใช่มนุษย์ แต่เป็นงูเห่าที่มีพิษร้าย

เมื่อได้รับความอบอุ่นจนฟื้นชีวิตขึ้นมาแล้ว ก็จะกัดเอาร่างที่ให้ความอบอุ่นให้ชีวิตแก่มัน

นั้นเอง

แต่ถึงแม้ยายพริ้มแกจะรู้ แกก็คงจะยังเลี้ยงเจ้าลอยต่อไป เพราะความรักของคนเรานั้น

บางครั้งก็มีมากมาย จนทำลายตนเอง...................


คัดมาเฉพาะหัวเรื่องนะครับ  ขออนุญาติเจ้าของลิขสิทธิ์ มา ณ ที่นี้